ในปัจจุบันนี้ภายในบ้านจำเป็นจะต้องมีเครื่องใช้ไฟฟ้าติดบ้านกันอยู่แล้วแน่ ๆ ทั้ง โทรทัศน์ ตู้เย็น พัดลม หรือเครื่องปรับอากาศ ฯลฯ แต่สิ่งที่ตามมากับเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ด้วยก็คงหนีไม่พ้น "ค่าไฟ" ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่คุณสามารถลดภาระได้ด้วยการประหยัดไฟ ที่นอกจากจะประหยัดเงินในกระเป๋าสตางค์แล้ว ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย
1. เปลี่ยนมาใช้หลอดตะเกียบ
การใช้หลอดตะเกียบสามารถช่วยให้คุณประหยัดไฟได้ เพราะว่ามีการนำเทคโนโลยีที่เรียกว่า CFL หรือ Compact Fluorescent Lamp มาใช้ ซึ่งเทคโนโลยีตัวนี้สามารถทำให้หลอดไฟมีความสว่างมากขึ้น และมีอายุการใช้งานที่นานกว่าเดิม อีกทั้งยังเกิดระดับความร้อนน้อยกว่าไส้หลอดไฟแบบเก่า จึงทำให้หลอดตะเกียบช่วยประหยัดได้มากกว่าหลอดไฟเก่าทั่ว ๆ ไป เมื่อประหยัดไฟแล้วแน่นอนว่าจะต้องประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณด้วยแน่ ๆ
2. วางในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี
ควรวางเครื่องใช้ไฟฟ้าไว้ในพื้นที่โล่ง สามารถระบายและถ่ายเทอากาศได้ดี โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกี่ยวกับการทำความเย็น เช่น เครื่องปรับอากาศ และตู้เย็น เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถระบายความร้อนได้ง่ายขึ้น โดยตั้งให้ห่างจากผนังอย่างน้อย 6 นิ้วสำหรับตู้เย็น ส่วนเครื่องปรับอากาศควรจัดวางคอมเพรสเซอร์ไว้ในที่โล่ง หรือมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก นอกจากนี้ในส่วนท่อของเครื่องปรับอากาศควรหุ้มด้วยฟอยล์ และหมั่นตรวจเช็กรอยรั่วบ่อย ๆ จะช่วยประหยัดการใช้ไฟฟ้าได้อีกเยอะเลย
3. ติดตั้งเครื่องปรับระดับแรงดันไฟฟ้า
เครื่องปรับระดับแรงดันไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สามารถช่วยประหยัดไฟได้ โดยการปรับแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสมกับความต้องการก่อนจะจ่ายไฟออกไปให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ซึ่งวิธีนี้สามารถประหยัดได้ 15-20% เลยทีเดียว ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับบ้านที่มีการใช้ไฟจำนวนมาก
4. ปิดสวิตช์ และถอดปลั๊กหลังการใช้ทุกครั้ง
เหตุที่แนะนำให้ถอดปลั๊ก และปิดสวิตช์หลังการใช้งานทุกครั้งนั่นเป็นเพราะว่า หากคุณไม่ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออก ถึงแม้คุณจะไม่ได้เปิดใช้แต่ในระหว่างนั้นก็ยังมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านตัวเครื่องอยู่เสมอ ดังนั้นจึงไม่ต่างอะไรกับการเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้ นอกจากนี้คุณยังสามารถประหยัดไฟ โดยการปิดสวิตช์ไฟหรือตั้งโหมดสแตนบายไว้ ก็สามารถช่วยลดการใช้ไฟได้เหมือนกัน
5. ติดตั้งกระจกแบบ Energy-Efficient Windows
กระจกประเภทนี้มีความหนาเป็นพิเศษ ซึ่งช่วยรักษาอุณหภูมิของบ้านเอาไว้ได้ดี เป็นเสมือนเกราะป้องกันบ้านไม่ให้มีความร้อนสูง หรือหนาวเย็นจนเกินไป อีกทั้งยังช่วยให้แสงสว่างสามารถส่องเข้ายังภายในบ้านได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้เองนอกจากจะได้บ้านที่มีแสงสว่างแล้ว ยังมีอุณหภูมิพอเหมาะทำให้บ้านน่าอยู่มากขึ้น และเป็นการประหยัดค่าแอร์ได้มากเลยทีเดียว
ข้อมูลอ้างอิงจาก : kapook.com
เผยแพร่ : 21 พฤศจิกายน 2562
Comments